Show simple item record

dc.contributor.authorนภารัตน์, อาภาผล
dc.contributor.authorฉันทนา, ปาปัดถา
dc.date.accessioned2010-08-16T08:49:00Z
dc.date.available2010-08-16T08:49:00Z
dc.date.issued2010-08-16T08:49:00Z
dc.identifier.urihttp://repository.rmutp.ac.th/handle/123456789/486
dc.descriptionรายงานการวิจัย--มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร,2551en_US
dc.description.abstractการศึกษาปัญหาและความต้องการของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการศึกษาของคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบปัญหาและความต้องการของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการศึกษาของคณะ เทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โดยใช้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักศึกษาของคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชนจำนวน 300 คน โดยจำแนกเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 จำนวน 100 คน ชั้นปีที่ 2 จำนวน 83 คน ชั้นปีที่ 3 จำนวน 57 คน และชั้นปีที่ 4 จำนวน 60 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่และร้อยละ ค่าเฉลี่ย x และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD.) การทดสอบค่าที (t-test) และการทดสอบค่าเอฟ (F-test) ผลการศึกษาพบว่า 1.การจัดการเรียนการสอนของคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ในภาพรวมอยู่ ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย x=3.110,SD=0.642) 2.ความต้องการในการจัดการศึกษาของคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร สรุปได้ดังนี้ 1)ด้านผู้สอน พบว่าส่วนใหญ่ต้องการผู้สอนที่มีความรู้ ความสามารถตรงตามรายวิชาที่สอน 2)ด้านเนื้อหา พบว่า ส่วนใหญ่ต้องการเรียนรู้เนื้อหาที่มีความเป็นไปได้ที่จะนำมาใช้ในชีวิตจริง 3)ด้านวิธีสอน พบว่า ส่วนใหญ่ต้องการการจัดการเรียนการสอนโดย เปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติในสิ่งที่เรียน ใช้สื่อประกอบการสอน หรือมีการแนะนำหนังสือ พาไปดูงานจริงเปิดโอกาสให้นักศึกษามีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน 4)ด้านการวัดและประเมินผล พบว่าส่วนใหญ่ต้องการให้มีเกณฑ์ในการวัดผลที่ชัดเจน มีการวัดผลตรงตามเนื้อหาที่เรียน ให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการกำหนดเกณฑ์การวัดผล 5)ด้านการจัดการเรียนการสอน พบว่า ส่วนใหญ่ต้องการให้มีการจัดตารางสอนในแต่ละภาคการศึกษาที่เหมาะสม มีการฝึกงานที่เหมาะสม มีการจัดลำดับก่อนหลังของรายวิชาใน แต่ละภาคการศึกษาเป็นอย่างดี 6)ด้านอาคารสถานที่ พบว่า ส่วนใหญ่ต้องการให้มีโรงอาหารที่รองรีบจำนวนนักศึกษาได้เพียงพอและสะอาด มีห้องคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ที่เพียงพอและเหมาะสม มีห้องน้ำเพียงพอและสะอาด มีห้องปฏิบัติการเพียงพอและเหมาะสม มีที่นั่งเล่นพักผ่อนเพียงพอ และไม่ร้อนแดด 7)ด้านโสตทัศนูปกรณ์และบริการ พบว่า ส่วนใหญ่ต้องการให้มีอุปกรณ์ที่เพียงพอ 3.การทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยการจัดการศึกษาของคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร สรุปได้ดังนี้ 1)เพศต่างกันมีปัญหาและความต้องการในการจัดการศึกษาแตกต่างกัน อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ 2)ชั้นปีต่างกันมีปัญหาและความต้องการในการจัดการศึกษาแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายคู่พบว่า แตกต่างกัน 4 คู่ ได้แก่ ได้แก่ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 กับ นักศึกษาชั้นปีที่ 3, นักศึกษาชั้นปีที่ 1 กับ นักศึกษาชั้นปีที่ 4, นักศึกษาชั้นปีที่ 2 กับ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 และนักศึกษาชั้นปีที่ 2 กับ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 3)อายุต่างกันมีปัญหาและความต้องการในการจัดการศึกษาแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายคู่พบว่า แตกต่างกัน 1 คู่ ได้แก่ นักศึกษาที่มีอายุระหว่าง 18-20 ปี กับ นักศึกษาที่มีอายุระหว่าง 21-23 ปี 4)สาขาวิชาต่างกันมีปัญหาและความต้องการในการจัดการศึกษาแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05en_US
dc.description.sponsorshipRajamangala University of Technology Phra Nakhonen_US
dc.language.isothen_US
dc.subjectการศึกษาen_US
dc.subjectการจัดการศึกษาen_US
dc.titleโครงการศึกษาปัญหาและความต้องการของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการศึกษาของคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครen_US
dc.typeResearch Reporten_US
dc.contributor.emailauthorairt@rmutp.ac.then_US


Files in this item

Thumbnail

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record